เหตุเกิดที่สนามบอล ชมังคลากีฬาสนาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ศึกเกมรองชิงชนะเลิศ ถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 โดยทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติสโลวาเกีย ภายในงานมีการบันทึกเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมกกว่า 4 หมื่น 5 พันคน นับเป็นยอดผู้ชมที่เยอะเทียบเท่าการแข่งขันรอบคัดเลือกบอลโลก 2018 เกมดังกล่าวเริ่มต้นเวลา 19.30 น ครั้งแรกช้างศึก เอาชนะ ทีมชาติกาบอง จุดโทษ 4-2 เกมนี้ยังคงใช้งานนักเตะที่ค้าแข้งในต่างประเทศกันอย่างครบครัน
ทั้งนายทวารกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ , ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ส่วน มงคล ทศไกร ฟิตร่างกายกลับมาช่วยในเกมนี้ ด้านทีมสโลวาเกีย หลังเกมแรกเอาชนะ ยุเออี 2-1 เปลี่ยนแท็ดติกเลือกนักเตะแตกต่างจากเกมแรกอยู่หลายตำแหน่ง เริ่มเกมมาได้เพียง 10 นาที สโลวาเกียมาได้ประตูนำก่อน 1-0 จากลุกเตะ ออนเดรจ ดูดา วิ่งเข้ามาเตะเข้าเสาไปไม่เหลือ ผ่านไป 34 สกอร์เขยินมาเป็น 2-0 โรเบิร์ต มัต หลุดเข้าไปยิงผ่านมือกวินทร์ เข้าไป นาที 42 ไทย ตีไข่แตกเมื่อ 2-1 จักรพันธ์ แก้วพรม หลุดขวาเข้าไปยิง ละจบสกอร์ครึ่งแรกด้วยเท่านี้ คึ่งหลังไทยได้เฮ อีกรอบ เมื่อนาที 78 ไทยไล่มาเสมอ 2-2 จากการหลุดลุกปั่นฟรีคิกวางบอลเข้าทาง พรรษา เหมวิบูลย์ เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติมเป็น ทีมชาติสโลวาเกีย เอาชนะ ทีมชาติไทย ไปได้ 3-2 คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ไปครองอีกทั้งยังเป็นแชมป์สมัยที่สองหลังเคยคว้ามาได้ในปี 2004
ประเด็นร้อนที่สนามบอล เวมบลี่ย์
ประเด็นร้อนที่สนามบอล เวมบลี่ย์ นัดยูเวนตุส บุกไปชิงชัย สเปอร์ ถึงสนามในบ้านแม้ครั้งนี้จะเสียจเปรียบที่โดนนำไปก่อน แต่แน่นอนว่าม้าลายชนะด้วยผล 2-1 ผ่านเข้ารอบสู่ 8 ทีมสุดท้ายในตยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นที่เรียบร้อยหลังสกอร์รวมทั้งสองเกมเป็นฝ่ายได้เปรียบกว่า
เมาริซิโอ โปเชตติโน เทรนเนอร์ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เขาค่อนข้างเชื่อมั่นในลูกทีมพอสมควรเนื่องจากผลงานที่ผ่านมาในลีกยุโรปทำได้ดี แต่ย่างไรมันคงยังไม่ดีพอสำหรับศึกยูฟ่า การใช้ประสบการณ์ที่มากน่าพอให้เขาไม่ต้องเสียประตู 2 ลูก ภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที บาดแผลครั้งนี้ต้องศึกษาอย่างหนักอำไว้ใช้ในปีต่อๆไปเพื่อความยิ่งใหญ่ในอนาคต ช่วงระยะหลังนี้มีหลายทีมพัมนาขึ้นมาติดอยู่อันดับท็อปยูเวนตุส เองเป็นหนึ่งในนั้นการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ สองครั้งในสามปี หลังสุดเป็นสิ่งที่การันตีได้ดีเลยทีเดียว ม้าลายใช้ประสบการณ์สอนเชิงไก่เดือยทอง โดยมีผู้เล่นอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน วัย 40 ปี, จอร์จิโอ คิเอลลินี่ วัย 33 ปี เป็นผู้นำในการพิสูจน์ว่าอายุมันไม่ใช่ปัญหา
หลังยูเวนตุสโดนนำไป 1-0 มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ต้องวางแผนใหม่เพื่อหนทางเข้าสู่รอบต่อไปให้ได้ดยการถอด 2 ผู้เล่นเชิงรับอย่าง แบรสต์ มาตุยดี้ และ เมห์ดี้ เบนาเตีย แก้เกมส่งสองผู้เล่นตำแแหน่งแบ็กซ้าย-ขวา ควัดโว่ อซาโมอาห์,สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์ ลงมาแทน เห็นผลทันทีได้ประตูตีเสมอ แถมยังช่วยให้ได้ลุกสองตามมาติดๆ
เคราะห์ร้ายบอลแดงเดือด ทางเลือกหงส์แดง
“หงส์แดง” ลิเวอร์พลูถึงคราว เคราะห์ร้ายบอลแดงเดือด เมื่อครั้งนี้ไม่สามารถใช้งาน ซาดิโอ มาเน่ ปีกตัวเก่งที่ได้รับบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า หลังกลับไปรับใช้ชาติเซเนกัล เมื่อสองเดือนก่อนทำให้ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 6 สัปดาห์ โดยสำนักข่าวบอลออนไลน์สื่อดังอังกฤษ เผยทางเลือกให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ที่มีนัด ลิเวอร์พลู เปิด แอนฟิลด์ ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคมนี้
- ใช้งานพ่อมดน้อย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ขึ้นไปเล่นเกมรุกเต็มตัว จากนัดล่าสุดเมื่อดาวเตะรายนี้ถูกย้ายตำแหน่งไปเล่นช่วงต่ำแต่ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยม ครั้งนี้คล็อปป์ อาจให้ คูตินโญ่ ไปยืนในแดนหน้าเต็มตัว
- อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนแข้งทีมชาติอังกฤษ มาจากอาร์เซน่อล ผลงานที่ผ่านมานั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่การบาดเจ็บของเมาเน่ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายอย่าง แชมเบอร์เลน สามารถเล่นเป็นปีก หรือ มิดฟิลด์ตัวกลาง ครั้งนี้อาจเป็นโอกาสสำคัญที่เขาจะได้รับการพลักดันขึ้นไปยืนแดนหน้า
- ฟีร์มีโน่ รับบทบาทกองหน้าในช่วงหลังนี้ แต่ช่วงนี้อาจต้องโยกไปเป็นเล่นฝั่งซ้าย แล้วใช้แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หรือ โดมินิค โซลันกี้ ตำแหน่งกองหน้าคอยทำผลบอล
- ในช่วงท้ายฤดูกาลก่อน คล็อปป์ เคยทดลองใช้ระบบกองกลางไดมอนด์มาแล้ว ก่อนที่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ ดิว็อค โอริกี้ เล่นหน้า และทั้งคู่ก็ทำประตูได้
- เบน วู้ดเบิร์นมิดฟิลด์ทีมชาติเวลส์ วัย 17 ปี อีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองเขาสามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์และปีกซ้าย
เล่นบอลโลกครั้งสุดท้าย เมสซี่
ลิโอเดล เมสซี่ หอกคนเก่งของทีมชาติอาร์เจนติน่าตอบคำถามชัด เล่นบอลโลกครั้งสุดท้าย หรือไม่หากทีม ฟ้า-ขาว ไม่ได้แชมป์ โดยเจ้าตัวออกมาตอบคำถามหลังหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าเขาจะไม่สานต่อภารกิ่วยชาติหากปีนี้ชวดอีกรอบ
กองหน้าอัจฉริยะ แห่งสโมสรยักษ์ใหญ่ลา ลีกา สเปน ลิโอเดล เมสซี่ ประกาศเจตนาต่อแฟนบอลทั่วโลกว่าตนเองยังไม่เลิกเล่นให้ทีมชติอาร์เจนติน่า บ้านเกิดอย่างแน่นอนหากยังไม่สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์บอลโลกได้สำเร็จ ทั้งที่การเล่นในระดับสโมสรบาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จมากมาย กับการเข้ามาอยู่ทีมชาติ เขาทำผลงานได้น่าผิดหวังมากโดยเฉพาะศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่มเกมแรกทำได้เพียงเสมอ ไอซ์แลนด์ และอีกครั้งกับความผิดหวังหลังพ่าย โครเอเชีย 0-3 สถานการณ์ตอนนี้ของพวกเขาเข้าขั้นโคมม่าส่องแววตกรอบ และเหลือเพียงแมตซ์สุดท้ายดวล ไนจีเรีย ต้องเอาชนะด้วยผลประตูเหนือกว่ามากเพื่อมีสิทธิ์ลุ้นตั๋วใบสุดท้ายเพื่อไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทางเลือกนี้ก็ไม่แน่นอนว่าจะการันตีได้อีกหรือไม่ถ้าหากไอซ์แลนด์ ชนะ โครเอเชีย หลายประตู
ทางเมสซี่ เองเผยความรู้สึกเกมที่ผ่านมามีความหมายมากทีมชาติ กับบอลโลกเป็นอะไรที่พิเศษสำหรับตัวผลเช่นกัน ความใฝ่ฝันคือการได้เห็นตัวเองถือถ้วยเวิลด์ คัพ ชูต่อหน้าคนทั้งประเทศพร้อมกับแฟนบอลมีอารมณ์ร่วมยินดีด้วยมันคงทำให้ชาวอาร์เจนไตน์หลายล้านคนมีความสุข ผจะไม่ยอมเลิกเล่นทีมชาติหากยังไม่ได้แชมป์โลก
แฟนบอลว่าไง ช็อตเด็ดในตำนาน
การกระทำดังกล่าวอาจจเกิดเพียงเสี้ยววินาที แต่ด้วยสมัยนี้เทคโนโลยีบันทึกภาพกลายเป็นช็อตเด็ดสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แฟนบอลว่าไง เมื่อภาพจับไปที่อันเดร์ เอร์เรร่า มิดฟิลด์ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังเดินเข้าไปในอุโมงค์ช่วงพักครึทั้งเกมการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดบุกถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากแฟนบอลทั้งสองฝั่งถึงการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยคลิปดังกล่าวถ่ายเห็น อันเดร์ เอร์เรร่า กองกลางชาวสเปนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเดินเข้าไปในอุโมงค์ช่วงพักครึ่งเกมลีกขณะถ่มน้ำลายใส่ตราสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บริเวณทางเดิน พร้อมกันนั้นมีการเผยแพร่โพสต์ทั่วโลกออนไลน์ ไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวจงใจหรือเป็นความบังเอิญถ่มน้ำลายใส่แบบไม่แคร์สายตาใคร ทั้งนี้ความคิดเห็นจากสองฝ่ายแตกออกอย่างชัดเจนด้านสาวก “เรือใบสีฟ้า” ทวิตข้อความในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ว่า “ต่อให้ผมเกลียดแมนฯ ซิตี้ มากแค่ไหนก็ตามแต่นี่เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจจากนักเตะทีมคู่แข่งที่ถ่มน้ำลายใส่ตราสโมสรของคุณ เสื่อมเสียที่สุด”
สาวก “ผีแดง” แสดงความเห็นสโมสรรีบต่อสัญญาใหม่ให้นักเตะคนนี้ทันที หรือเป็นการพูดยกย่องถึงการกระทำนี้สมควรได้สัญญาตลอดชีวิตทั้งนี้ยังมีด้านความคิดเห็นสนับสนุนจากแฟนปีศาจแดงชอบที่ เอร์เรร่า ถล่มน้ำลายใส่ตราสโมสรแมนฯ ซิตี้ เป็นการแสดงออกที่สมควรและเขาควรได้เป็นตำนานของทีม